สรุปยอดขายงานสัปดาห์หนังสือฯ 2556 ทะลุ 600 ล้าน

สมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย (PUBAT) สรุปตัวเลขงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติครั้งที่ 41 และสัปดาห์หนังสือนานาชาติครั้งที่ 11 ออกมาแล้วนะครับ ในด้านจำนวนผู้เข้าชมงานอยู่ที่ 1.7 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วประมาณ 3 แสนคน ส่วนยอดขายอยู่ที่ 600 ล้านบาท เทียบกับปีที่แล้วที่มียอดขาย 400 ล้านบาท

ข้อมูลอีกด้านหนึ่งที่น่าสนใจก็คือ ผู้เข้าชมงานส่วนใหญ่จะอยู่ในช่วงอายุ 15-30 ปี และหนังสือหมวดขายที่ดีจะอยู่ในกลุ่มการ์ตูน นวนิยาย ธรรมะพัฒนาจิตใจ รวมถึงหนังสือเกี่ยวกับธุรกิจการเงินส่วนบุคคล

เผื่อเป็นประโยชน์หรือเป็นแนวทางสำหรับสำนักพิมพ์ที่จะใช้ในการผลิตหนังสือใหม่ๆ ในปีนี้นะครับ

กองทุน BTSGIF ทำอะไร?

เมื่อวันก่อนมีน้องที่ออฟฟิศมาถามถึงกองทุนนี้ ผมไม่ได้ตามรายละเอียดก็เลยบอกไปได้แค่หลักการติดรายละเอียดเอาไว้ก่อน แต่ไหนๆ ก็ไปหาข้อมูลเพิ่มเติมมาแล้ว ก็มาเล่าต่อที่นี่แล้วกัน

รถไฟฟ้า BTS

กองทุนนี้มีชื่อเต็มๆ ว่า “กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานระบบขนส่งมวลชนทางราง บีทีเอสโกรท” (จะยาวไปไหน) เรียกสั้นๆ ว่า BTSGIF แล้วกองทุนนี้ทำอะไร? สรุปง่ายๆ ได้ว่า เป็นกองทุนที่มีรายได้มาจาก “ค่าโดยสาร” รถไฟฟ้า BTS 2 สาย คือ หมอชิต-อ่อนนุช และสะพานตากสิน-สนามกีฬาแห่งชาติ ที่ยังมีอายุสัมปทานเหลืออยู่ 17 ปี (หมดสัมปทานวันที่ 4 ธันวาคม 2572)

เน้นไว้ตรงนี้นิดนึงว่า กองทุนนี้มีรายได้จากค่าโดยสารอย่างเดียว ค่าเช่าพื้นที่ ค่าโฆษณา ฯลฯ ทั้งหลายทั้งปวงไม่เกี่ยวนะ

ตามข้อมูลที่กองทุนเผยแพร่ออกมาบอกว่า สถิติการใช้บริการของผู้โดยสารมีเพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละ 10.9% ตลอดระยะเวลา 13 ปีที่เปิดให้บริการมา ขนาดปีที่เศรษฐกิจถดถอยรายได้ค่าโดยสารก็ยังโตต่อเนื่อง ทีนี้ก็เอารายได้ที่ว่ามาหักค่าใช้จ่าย เหลือเป็นกำไรก็เอามาจ่ายเป็นเงินปันผลให้กับผู้ถือหน่วยในอัตราไม่ต่ำกว่า 90% ของกำไร โดยมีการประมาณการว่าน่าจะจ่ายเงินคืนให้กับผู้ถือหน่วยได้ในอัตราปีละ 5.8% – 6% (แบ่งเป็นเงินปันผลจากกำไร 5.2% – 5.4% และเงินลดทุนอีก 0.6%)

มาถึงคำถามสำคัญ แล้วมันน่าซื้อมั้ยกองทุนนี้?

ตอบตรงๆ ก็ต้องบอกว่า แล้วแต่จริตของแต่ละคน เพราะบางคนเห็นตัวเลขผลตอบแทนที่จะได้แล้วอาจจะคิดว่ามันน้อยเกิ๊น เอาไปซื้อหุ้นลุ้นราคามันส์กว่า บางคนก็อาจจะคิดว่า ผลตอบแทนขนาดนี้ก็น่าสนใจ แต่เกิดวันไหนรถไฟฟ้าเจอผู้ก่อการร้ายวางระเบิดขึ้นมาจะทำไง ฉันเอาเงินฝากแบงค์ดีกว่า ยังไงรัฐบาลก็ค้ำประกัน ได้ดอกเบี้ยน้อยหน่อยก็ไม่เป็นไร

ก็เลือกเอาตามความชอบนะครับ หลักของผมง่ายๆ ก็คือ ถ้าลงทุนอะไรแล้วจะทำให้นอนไม่หลับกระสับกระส่ายก็อย่าไปลงทุนมันเลย ไม่คุ้มกันหรอก แต่ถ้าใครสนใจล่ะก็ เขาจะเปิดขายหน่วยลงทุนตั้งแต่วันที่ 29 มีนาคม – 4 เมษายน ตอนนี้ราคายังไม่เคาะ แต่คาดว่าจะอยู่ระหว่าง 10.40 – 10.80 บาทต่อหน่วยนะครับ

เตรียมพบกับ Forbes Thailand มิถุนายนนี้

ตลาดนิตยสารหัวนอกในประเทศไทยยังคงดูน่าสนใจในสายตาของผู้ประกอบการ โดยเฉพาะผู้เล่นรายใหญ่ทุนหนาที่พร้อมจะทุ่มเงินคว้าสิทธิ์นิตยสารหัวนอกแบรนด์ดังมาทำเป็นเล่มภาษาไทย แม้ว่าผลลัพธ์ที่ออกมาจะปนเปกันไป มีทั้งที่ประสบความสำเร็จในด้านชื่อเสียงและตัวเงิน แต่ก็มีที่ล้มพับไปเช่นกัน

อย่างกรณีของ Bloomberg Businessweek ไทยแลนด์ที่เป็นนิตยสารธุรกิจหัวนอกฉบับแรกในประเทศไทยที่เพิ่งปิดตัวไป (อ่านที่นี่) แต่ก็ยังมีรายใหม่ที่สนใจจะเจาะตลาดนี้ตามมาอีกราย นั่นคือ โพสต์ พับลิชชิ่ง เจ้าของหนังสือพิมพ์ Bangkok Post โพสต์ทูเดย์ และนิตยสารอีกหลายเล่ม โดยล่าสุดได้รับสิทธิ์จากนิตยสาร Forbes ให้เป็นผู้ผลิตเล่มภาษาไทยในชื่อ Forbes Thailand

นิตยสาร Forbes

ซึ่งขณะนี้อยู่ในช่วงของการเตรียมการและหาทีมงาน โดยได้ตัวบรรณาธิการเรียบร้อยแล้ว เบื้องต้นจะเป็นนิตยสารรายเดือนและจะออกวางจำหน่ายฉบับปฐมฤกษ์ในเดือนมิถุนายนที่จะถึงนี้ ด้วยราคาปก 180 บาท สำหรับเนื้อหาจะเป็นเนื้อหาแปลจากต่างประเทศและเนื้อหาจากทีมงานในประเทศในสัดส่วนเท่าๆ กัน

ปัจจุบันนิตยสาร Forbes มีฉบับ local อยู่หลายฉบับด้วยกัน เช่น Forbes Indonesia, Forbes India, และ Forbes Middle East นอกจากนี้ ยังมี Forbes Asia โดยเฉพาะอีกด้วย

นิตยสาร Forbes Asia

ปิดฉาก Bloomberg Businessweek ไทยแลนด์

ต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา สมาชิก Bloomberg Businessweek ไทยแลนด์ คงแปลกใจเมื่อได้รับหนังสือฉบับเดือนกุมภาพันธ์ เพราะนอกจากนิตยสารฉบับล่าสุดแล้ว ยังมีเอกสารที่แทรกมาในเล่มแจ้งให้รู้ว่านิตยสารเล่มดังกล่าวจะเป็นฉบับสุดท้ายของ Bloomberg Businessweek ไทยแลนด์ อีกด้วย

Bloomberg Businessweek ไทยแลนด์ notice

เอกสารแจ้งยุติการตีพิมพ์ Bloomberg Businessweek ไทยแลนด์ ที่ส่งถึงสมาชิก

เท่ากับว่าฉบับกุมภาพันธ์ 2556 เป็นการปิดฉากของ Bloomberg Businessweek ไทยแลนด์ ซึ่งเป็นนิตยสารธุรกิจรายเดือนที่ได้รับอนุญาตให้จัดทำฉบับภาษาไทยอย่างถูกต้องเป็นรายแรกและรายเดียวในประเทศไทย (ในขณะนี้)

นิตยสาร Bloomberg Businessweek ไทยแลนด์ ฉบับแรกออกวางจำหน่ายในเดือนสิงหาคม 2550 ในชื่อ BusinessWeek ไทยแลนด์ โดยได้รับอนุญาตจาก The McGraw-Hill Companies ซึ่งเป็นเจ้าของ BusinessWeek ต่อมาเมื่อ BusinessWeek ประสบปัญหาขาดทุน ทาง McGraw-Hill จึงได้ขายนิตยสารเล่มนี้ให้กับ Bloomberg และเปลี่ยนชื่อเป็น Bloomberg Businessweek ส่งผลให้ BusinessWeek ไทยแลนด์ ต้องเปลี่ยนชื่อเป็น Bloomberg Businessweek ไทยแลนด์ ในที่สุด

นิตยสาร BusinessWeek ไทยแลนด์ ฉบับปฐมฤกษ์ สิงหาคม 2550

นิตยสาร BusinessWeek ไทยแลนด์ ฉบับปฐมฤกษ์ สิงหาคม 2550

แต่ถึงแม้ผู้จัดทำรายเดิมจะถอดใจเลิกทำไป แต่ ณ ขณะนี้ได้ยินมาว่า มีกลุ่มทุนใหม่ที่สนใจจะซื้อสิทธิ์มาทำต่ออยู่นะครับ ถ้ามีความคืบหน้าประการใด จะนำมาแจ้งให้ทราบนะครับ

บริษัทอสังหาฯ รุกขึ้นคอนโดมิเนียมที่ภูเก็ต ราคาขายเฉลี่ย 1.5 ล้าน

รายงานตลาดอสังหาริมทรัพย์ภูเก็ตฉบับล่าสุด Phuket Property Report ประจำไตรมาสที่ 1 ปี 2555 จัดทำโดยแผนกวิจัย ซีบี ริชาร์ด เอลลิส  พบว่า ในปัจจุบันมีตลาดที่พักอาศัยใหม่เกิดขึ้น ซึ่งเป็นโครงการประเภทคอนโดมิเนียมที่ไม่ใช่บ้านพักตากอากาศและไม่อยู่ติดชายหาด พัฒนาโครงการโดยผู้ประกอบการจากกรุงเทพฯ ที่เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เช่น แสนสิริ และศุภาลัย   โครงการดังกล่าวจะเป็นโครงการคอนโดมิเนียมที่ยังไม่เริ่มการก่อสร้าง ตั้งอยู่บริเวณพื้นที่ด้านในของเกาะ และประสบความสำเร็จอย่างสูงในด้านยอดขาย โดยมีกลุ่มเป้าหมายเป็นผู้ที่พักอาศัยอยู่บนเกาะภูเก็ต ส่วนใหญ่เป็นห้องขนาดสตูดิโอ พื้นที่ 29 – 37 ตารางเมตร มีราคาขายเฉลี่ยที่ 1.5 ล้านบาท

ทั้งนี้ ยังคงต้องจับตาดูต่อไปว่า ตลาดเกิดใหม่ดังกล่าวจะมีปริมาณความต้องการมากน้อยเพียงใดและจะมีโครงการใหม่โครงการใดเกิดขึ้นอีกในตลาด ในขณะที่คอนโดมิเนียมในตลาดบ้านพักตากอากาศนั้นการเปิดโครงการใหม่ยังคงเงียบเหงา ผู้ประกอบการมุ่งเน้นไปที่การขายสินค้าที่ยังเหลือขายอยู่

โดยจากการสำรวจของซีบี ริชาร์ด เอลลิส พบว่า มีการขายคอนโดมิเนียมในตลาดบ้านพักตากอากาศไปทั้งสิ้น 84 ยูนิตในช่วงไตรมาสที่ 1 ปี 2555 จาก 5 โครงการด้วยกัน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการขายคอนโดมิเนียมขนาด 1 ห้องนอน ราคาเฉลี่ย 5.9 ล้านบาท โดยในช่วงไตรมาสดังกล่าว มีคอนโดมิเนียมที่การก่อสร้างแล้วเสร็จราว 3,700 ยูนิตในภูเก็ต   เมื่อเปรียบเทียบกับพัทยามีคอนโดมิเนียมที่การก่อสร้างแล้วเสร็จราว 22,000 ยูนิต และอีก 21,500 ยูนิตที่กำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้าง โดยส่วนใหญ่เป็นห้องขนาด 1 ห้องนอน ราคา 2 – 3 ล้านบาท

Forbes จัดอันดับ Manchester United ทีมกีฬาที่มีมูลค่ามากที่สุด

นิตยสาร Forbes จากสหรัฐฯ จัดอันดับทีมกีฬาที่มีมูลค่ามากที่สุดประจำปีนี้ โดยทีมที่ได้อันดับหนึ่งไปครองคือ Manchester United จากประเทศอังกฤษ มีมูลค่า 2.23 พันล้านเหรียญ มากกว่าทีม Real Madrid ที่ได้อันดับสองด้วยมูลค่า 1.88 พันล้านเหรียญ

ส่วนทีมที่มีมูลค่ามากทีุ่สุดตั้งแต่อันดับ 3 – 10 ได้แก่ New York Yankees (เบสบอล) และ Dallas Cowboys (อเมริกันฟุตบอล) ได้อันดับ 3 เท่ากันด้วยมูลค่า 1.85 พันล้านเหรียญ ตามด้วย Washington Redskins (อเมริกันฟุตบอล) 1.56 พันล้านเหรียญ Los Angeles Dodgers (เบสบอล) 1.4 พันล้านเหรียญ เท่ากับ New England Patriots (อเมริกันฟุตบอล) ตามมาด้วย Barcelona (ฟุตบอล) จากสเปน 1.31 พันล้านเหรียญ และ New York Giants (อเมริกันฟุตบอล) 1.3 พันล้านเหรียญ และปิดท้ายที่ Arsenal (ฟุตบอล) มีมูลค่า 1.29 พันล้านเหรียญ

ปิดท้ายด้วยเรื่องของ Man U กันอีกนิด ใครที่สนใจจะเป็นเจ้าของสโมสรแห่งนี้ก็มีโอกาสแล้วนะครับ เพราะทางตระกูล Glazer ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ได้ประกาศออกมาแล้วว่าเตรียมจะเอาหุ้น Man U เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ New York (NYSE) ในเร็ววันนี้ เพราะฉะนั้นช่วงนี้ก็เตรียมเก็บเงินเก็บทองรอกันได้เลย ซื้อเอาไว้ซักหุ้นสองหุ้นก็คุยได้แล้วว่า เราเป็นเจ้าของ Man U นะเฟ้ย…

นิตยสาร POSITIONING เวอร์ชั่นกระดาษเล่มสุดท้าย

นิตยสาร POSITIONING ฉบับที่ 97 เดือนมิถุนายน 2555 ที่ออกวางแผงเมื่อเร็วๆ นี้ด้วยวลีโปรยปกว่า POSITIONING Go Digital The power of new media เป็นฉบับสุดท้ายที่ตีพิมพ์ในรูปเล่มที่เป็นกระดาษ เพราะตั้งแต่เล่มหน้าเป็นต้นไปจะปรับเปลี่ยนไปเป็นดิจิตอลแม็กกาซีนที่ให้ผู้อ่านดาวน์โหลดมาอ่านบน iPad

ไพเราะ เลิศวิราม บรรณาธิการบริหาร ได้เขียนบทบรรณาธิการถึงการปรับเปลี่ยนครั้งนี้เอาไว้ ดังนี้

8 ปี บนเส้นทางนิตยสารด้านการตลาด พวกเราทีมงานร่วมกันทำหน้าที่ของการเป็นนิตยสารการตลาด ที่มุ่งเน้นการนำกรณีศึกษาที่เป็นปรากฏการณ์ทางธุรกิจสำคัญๆ ที่มีผลกระทบต่อสังคมมานำเสนออย่างต่อเนื่อง โดยเน้นความรวดเร็ว ฉับไว ทันกับสถานการณ์

การปรับเปลี่ยนจากนิตยสารฉบับสิ่งพิมพ์ไปสู่เส้นทางสายดิจิตอลครั้ง นี้ ยิ่งทำให้เรามั่นใจว่า ผู้อ่านจะได้ประโยชน์จากข่าวสารข้อมูลสดใหม่มากยิ่งขึ้น เหมาะกับพฤติกรรมผู้บริโภคยุคนี้ ทั้งบนเว็บไซต์ และบนดิจิตอลแมกกาซีน

ไม่เพียงแต่เราไม่ปฏิเสธนวัตกรรม ตรงกันข้ามเรากลับตอบรับกับ “นิวมีเดีย” มาตั้งแต่ต้น เราจัดทำเว็บไซต์ positioningmag.com ไปพร้อมๆ กับการเริ่มต้นนิตยสาร เพื่อรองรับพฤติกรรมที่คนหันมาเสพข่าวสารบนเว็บไซต์มากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มผู้อ่านที่เป็นคนรุ่นใหม่

จากผลสำรวจของทรูฮิตในวันนี้ พบว่า เว็บ  positioningmag.com  เป็นเว็บไซต์ด้านการตลาดที่มียอดคนดูติดอันดับแรก …

อ่านต่อได้ที่นี่

ค่ายผู้จัดการเป็นค่ายใหญ่ค่ายแรกที่ปรับสื่อสิ่งพิมพ์ในเครือมุ่งไปสู่ดิจิตอลเพียงอย่างเดียว โดยก่อนหน้านี้ได้ยุบเลิกหนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายสัปดาห์ไปแล้ว หลังจากนิตยสาร POSITIONING แล้วก็จะเป็นนิตยสารผู้จัดการ 360° และคาดว่าจะตามมาด้วยหนังสือพิมพ์ ASTV ผู้จัดการ เป็นฉบับต่อไป

Business model ของสื่อดิจิตอลที่แตกต่างจากสื่อสิ่งพิมพ์ดั้งเดิมจะส่งผลต่อการปรับตัวครั้งนี้อย่างไร อีกไม่นานเราคงรู้กัน

ปาร์คเวนเชอร์ อีโคเพล็กซ์ ทำสถิติราคาค่าเช่าสำนักงานสูงสุดในกรุงเทพฯ

รายงานการสำรวจโดยแผนกวิจัยของซีบี ริชาร์ด เอลลิส ในช่วงไตรมาสที่ 1 ปี 2555 พบว่า ค่าเช่าพื้นที่สำนักงานระดับเกรดเอในย่านซีบีดีโดยเฉลี่ยปรับตัวสูงขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 713 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน จากระดับ 702 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือนในช่วงไตรมาสที่ 4 ปี 2554 คิดเป็นการเพิ่มขึ้น 1.6% และ 4.9% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว

ทั้งนี้ พื้นที่สำนักงานในกรุงเทพฯมีทั้งสิ้น 8.14 ล้านตารางเมตร เพิ่มขึ้น 0.3% ต่อไตรมาส และ 2% ต่อปี โดยมีพื้นที่ใหม่เพิ่มขึ้นในช่วงไตรมาสที่ 1 ปี 2555 จำนวนราว 32,000 ตารางเมตร อย่างไรก็ตาม ไม่มีพื้นที่สำนักงานระดับเกรดเอแห่งใหม่เกิดขึ้นในย่านซีบีดีในช่วงเวลาดังกล่าวจึงทำให้ค่าเช่าและอัตราการเข้าใช้พื้นที่ของสำนักงานระดับเกรดเอในย่านซีบีดีมีแนวโน้มเติบโตเพิ่มขึ้น โดยในช่วงไตรมาสที่ 1 ปี 2555 ปริมาณการเข้าใช้พื้นที่สำนักงานโดยรวมในกรุงเทพฯอยู่ที่ราว 35,000 ตารางเมตรและอัตราการเข้าใช้พื้นที่ทั้งตลาดเพิ่มสูงขึ้นเล็กน้อยที่ระดับ 86.1% จากระดับ 85.9% ในช่วงไตรมาสก่อนหน้า

นายนิธิพัฒน์ ทองพันธุ์ กรรมการบริหารและหัวหน้าแผนกจัดหาพื้นที่สำนักงาน ของซีบี ริชาร์ด เอลลิส กล่าวว่า “ตลาดอาคารสำนักงานยังคงปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีปริมาณการเช่าพื้นที่และอัตราการเข้าใช้พื้นที่สูงขึ้น หากไม่มีผลกระทบจากปัจจัยภายนอกทางเศรษฐกิจหรือเหตุการณ์ทางการเมืองภายในประเทศ เชื่อว่าภาพรวมตลาดอาคารสำนักงานในกรุงเทพฯจะมีทิศทางที่ดี”

สำหรับอาคารสำนักงานที่สร้างสถิติราคาค่าเช่าพื้นที่สำนักงานสูงที่สุดในกรุงเทพมหานครในตอนนี้ก็คือ ปาร์คเวนเชอร์ อีโคเพล็กซ์ (ตั้งอยู่บริเวณแยกเพลินจิต-วิทยุ) ที่สามารถปล่อยเช่าได้ที่ระดับ 875 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน และได้ปรับราคาเสนอเช่า (Asking Rent) ใหม่เป็น 900 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือนตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2555 ที่ผ่านมา และค่าเช่าพื้นที่สำนักงานของปาร์คเวนเชอร์ อีโคเพล็กซ์ในปัจจุบันสูงกว่าค่าเช่าเฉลี่ยในตลาดอย่างน้อย 20% ด้วยกัน

“สีลม” ครองแชมป์ราคาประเมินที่ดินสูงสุด 8.5 แสน/ตร.ว.

ในแวดวงอสังหาริมทรัพย์มีเรื่องแปลกอยู่อย่างนึงก็คือ กรมธนารักษ์จะทำการรวบรวมข้อมูลและประกาศราคาประเมินที่ดินของประเทศไทยเพื่อใช้เป็นเกณฑ์ในการอ้างอิง แต่โดยส่วนใหญ่แล้วในวงการก็จะรู้ว่า ราคาที่ประกาศออกมานั่นน่ะไม่สามารถจะซื้อขายกันจริงๆ ได้ (เพราะมันถูกกว่าราคาตลาด ไม่มีใครที่จะยอมขายตามราคาที่ว่า)

แต่กรมธนารักษ์ก็ถือเป็นหน้าที่ที่จะต้องทำราคาประเมินออกมา และคราวนี้ผลออกมาว่า ราคาที่ดินเฉลี่ยทั่วประเทศปรับตัวสูงขึ้น 21.34% จากรอบบัญชีปี 2551 – 2554 โดยที่ดินต่างจังหวัดเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 21.40% ส่วนกรุงเทพมหานครเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 17.13%

สำหรับพื้นที่ที่มีราคาประเมินที่ดินสูงสุดของประเทศ 5 อันดับแรกคือ ย่านสีลม ช่วงแยกศาลาแดง ถึงแยกนราธิวาสราชนครินทร์ ตารางวาละ 8.5 แสนบาท เพิ่มขึ้น 31% จากรอบบัญชี ปี 2551 – 2554 ที่มีราคาตารางวาละ 6.5 แสนบาท รองลงมาเป็นถนนราชดำริ แยกราชประสงค์ถึงคลองแสนแสบ, ถนนพระรามที่ 1 แยกปทุมวันถึงแยกราชประสงค์, ถนนเพลินจิต ตลอดสาย ตารางวาละ 8 แสนบาท เพิ่มขึ้นจากรอบบัญชีปี 2551 – 2554 ตารางวาละ 3.5 แสนบาท, 3.5 แสนบาท และ 4.3 แสนบาท ตามลำดับ ถนนราชดำริ แยกศาลาแดงถึงแยกราชประสงค์ และถนนเยาวราชตลอดสาย ตารางวาละ 7 แสนบาท เพิ่มขึ้นจากตารางวาละ 3.5 แสนบาท และ 5.5 แสนบาทตามลำดับ นอกจากนั้น ยังมีถนนวิทยุ ตารางวาละ 5 – 7 แสนบาท เพิ่มขึ้นจากรอบบัญชีปี 2551 – 2554 ที่ตารางวาละ 3.5 แสนบาท และถนนสาทร ตารางวาละ 4.5 – 6 แสนบาท เพิ่มขึ้น 12.5 – 42.8% จากตารางวาละ 3.3 – 4 แสนบาท

ส่วนพื้นที่ที่มีราคาประเมินต่ำสุดคือ ในกรุงเทพฯ ตารางวาละ 500 บาทอยู่ที่เขตบางขุนเทียน ซึ่งเป็นที่ดินบริเวณชายทะเลไม่มีทางเข้าออก และภาคกลางตารางวาละ 10 บาท ที่อำเภอบ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานี

แต่ก็อย่างที่ว่าไว้ตอนต้นนะครับว่า ราคานี้เป็นราคาประเมิน ส่วนราคาขายจริงคงไม่ได้ราคานี้ครับ ยกตัวอย่างที่ดินแปลงที่ครองแชมป์ราคาสูงที่สุดในประเทศไทยแปลงนี้ครับ อยู่เพลินจิตแต่ราคา 1.5 ล้านบาทต่อตารางวา ยังรอคนมาโค่นแชมป์อยู่ครับ

โชคดีแล้วที่ยังมีงานทำ

วิกฤติเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในยุโรปและกำลังแพร่เชื้อระบาดขยายวงต่อไปทีละประเทศในตอนนี้ไม่เพียงแต่จะทำให้เศรษฐกิจโดยรวมย่ำแย่เท่านั้น ประชาชนในแต่ละประเทศก็ได้รับผลกระทบโดยตรงด้วยเช่นกัน เมื่อบริษัทห้างร้านเลิกกิจการหรือลดค่าใช้จ่ายก็ย่อมแน่นอนว่า บรรดาพนักงานก็ต้องโดนเลิกจ้างตามมา แล้วก็ต่อเนื่องไปถึงเหล่าบัณฑิตจบใหม่ทั้งหลายที่จะหางานทำได้ยากขึ้น (สถานการณ์ที่ว่ามานี้เคยเกิดขึ้นในบ้านเรามาแล้วเมื่อครั้งวิกฤติต้มยำกุ้ง)

หน่วยงานสากลที่ชื่อ International Labor Organization ประเมินว่า ในปัจจุบันมีคนรุ่นหนุ่มสาวในวัยระหว่าง 15 – 24 ปีที่ไม่มีงานทำอยู่ถึง 75 ล้านคนทั่วโลก ในขณะที่มีคนอีกจำนวนไม่น้อยที่ต้องทำงานที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับสาขาที่ร่ำเรียนมาเลย หรือกระทั่งยอมทำงานที่ใช้วุฒิต่ำกว่าระดับการศึกษาของตัวเอง

สำนักข่าว Reuters ได้มอบหมายให้ช่างภาพไปถ่ายรูปคนหนุ่มสาวที่เข้าข่ายอย่างที่ว่า มานำเสนอ ตัวอย่างเช่น

สาวคนนี้ชื่อว่า Tania Leon อายุ 29 ปี อยู่ที่ประเทศสเปน เธอจบปริญญาตรีด้านจิตวิทยาจาก University of Santiago de Compostela ในปี 2006 ตั้งใจจะทำงานเป็นนักจิตวิทยาแต่ต้องมาทำงานเป็นพนักงานต้อนรับบนรถโดยสารมา 2 ปีแล้ว (เครดิตภาพจาก Reuters/Miguel Vidal)

หรือคนนี้

Manolis Ouranos อายุ 30 ปี อยู่ที่กรีซ จบด้านวิศวกรรมโยธา จาก Athens Technology University  แต่จบแล้วหางานทำไม่ได้ ต้องมาเป็นพ่อครัวในร้านอาหารไปพลางๆ ก่อน (เครดิตภาพ Reuters/Yannis Behrakis)

สำหรับภาพคนอื่นๆ ดูเพิ่มเติมได้จากที่นี่

เมื่อไหร่ที่รู้สึกว่า งานที่ทำมันเซ็งเฮงซวยเหลือเกิน นึกถึงพวกเขา (และเธอ) เหล่านี้เอาไว้นะครับ…